Skip to main content

สงสัยจังว่าเลเซอร์โทนนิ่งกับพิโค่โทนนิ่งต่างกันยังไง

 



หลายคนกำลังกังวลเกี่ยวกับความผิดปกติของเม็ดสีบนใบหน้า เช่น จุดด่างดำและฝ้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากฤดูร้อนที่มีรังสียูวีที่รุนแรงทำให้รู้สึกกังวล เพราะจุดด่างดำที่เคยมองไม่เห็นจะเข้มขึ้นค่ะ

สกินแคร์ที่สามาถใช้ที่บ้านได้จำนวนมากถูกเปิดตัวเพื่อขจัดจุดด่างดำบนผิวหนัง แต่แนะนำให้คุณไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาด้วยเลเซอร์แบบมืออาชีพสำหรับรอยสีเข้มที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการดูแลที่บ้านเพียงอย่างเดียว

สำหรับคนที่กังวลเรื่องจุดด่างดำ เช่น จุดด่างดำ และกระ น่าจะได้ยินเรื่องการดูแลผิว 'Toning' กันไปแล้วนะครับ

วันนี้เราจะมาพูดถึงโทนนิ่งเลเซอร์ และพิโค่โทนนิ่งกันนะคะ


โทนนิ่งเลเซอร์

ถ้าพูดถึงเลเซอร์เม็ดสีผิว สิ่งที่นึกถึงเป็นอย่างแรกก็คือโทนนิ่งเลเซอร์ค่ะ

โทนนิ่งเลเซอร์เป็นขั้นวิธีการสำคัญในการรักษาฝ้า และแม้ว่าจะไม่มีฝ้าก็ใช้กันอย่างแพร่หลายเนื่องจากช่วยปรับปรุงโทนสีผิวและช่วยให้ผิวขาวค่ะ เลเซอร์โทนนิ่งมีข้อได้เปรียบคือเลเซอร์ยิงออกมาในบริเวณกว้าง ทำให้ระยะเวลาในการทำหัตถการสั้นและมีประสิทธิภาพในการรักษาสูง และสามารถรักษาโดยการปรับความแรงตามแต่ละประเภทผิวหนัง และสามารถรักษาได้โดยการค่อยๆ เพิ่มความแรงของโทนนิ่งในระหว่างการรักษาในระยะแรก ๆ ซึ่งจะช่วยลดการระคายเคืองและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา 


พิโค่โทนนิ่ง

 Picolite Toning Laser รุ่นที่ 5 เป็นหัตถการที่รับความนิยมในช่วงนี้ โดยเป็นเลเซอร์ระดับพรีเมี่ยมแบบใหม่ ที่ได้รับการอัพเกรดจากเลเซอร์โทนนิ่งแบบดั้งเดิม หรือเลเซอร์รักษาความผิดปกติของเม็ดสีผิวอื่นๆ และเลเซอร์แฟร็กชั่นแนล Pico toning รุ่นที่ 5 มีระยะเวลาของ pulse ที่สั้นมาก (pulse duration) และพลังงานสูงสุดในกลุ่ม Pico laser ซึ่งมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่า เช่น อาการผิวไหม้

Picotoning รักษาริ้วรอย รูขุมขน รอยแผลเป็นจากสิวได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ลดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อผิวโดยรอบ ใช้เวลาในการฟื้นฟูผิวและผลข้างเคียงน้อย จึงสะดวกต่อการรักษาและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติหลังทำค่ะ


โทนนิ่งกับพิโค่โทนนิ่ง ต่างกันอย่างไร?

พิโค่โทนนิ่ง จะยิงเลเซอร์ออกมาได้ในระยะเวลาที่สั้นกว่าเลเซอร์โทนนิ่งแบบดั้งเดิม ซึ่งมีข้อได้เปรียบในการลดการถ่ายเทความร้อนไปยังเนื้อเยื่อใกล้เคียงเพื่อลดความเสียหายของผิวบริเวณรอบ ๆ โดยเฉพาะการกำจัดรอยสัก สามารถกล่าวได้ว่าพิโค่โทนนิ่ง มีประสิทธิผลในการแยกเม็ดสีให้ละเอียดขึ้นและลดความเสียหายต่อผิวบริเวณรอบ

ในกรณีของฝ้า จุดเม็ดสีคาเฟ่โอรีวานมักใช้การรักษาด้วยเลเซอร์โทนนิ่งแบบดั้งเดิม ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าทำพิโค่โทนนิ่งเพิ่มหลังจากการทำเลเซอร์โทนนิงแล้ว นอกจากนั้นแล้วพิโค่เลเซอร์ยังมีประโยชน์ต่ออาการต่าง ๆ เช่น จุดด่างดำที่มีเม็ดสีอยู่ลึก ๆ ในผิวหนังอีกด้วย เนื่องจากพิโค่เลเซอร์แทรกซึมเข้าไปลึกในผิวหนัง

และอย่างที่สาม การรักษารูขุมขนและแผลเป็น พิโค่โทนนิ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้โดยการยิงพลังงานมหาศาลในทันที และมีประสิทธิภาพในการรักษารูขุมขนและแผลเป็นรอยขีดข่วน พิโค่แฟรกเซลเหล่านี้ มีข้อได้เปรียบว่า มีความเสียหายต่อผิวหนังน้อยกว่า และฟื้นสภาพได้เร็วกว่า เลเซอร์แฟรกเซลแบบดั้งเดิม


แล้วเลเซอร์อันไหนดีกว่ากัน?

เลเซอร์โทนนิ่งแบบดั้งเดิมและพิโค่โทนนิ่งนั้น แทนที่จะบอกว่าอันไหนดีกว่ากัน แต่เพราะว่าแต่ละอย่างมีข้อได้เปรียบของตัวเอง วิธีการใช้ตามแต่ละสภาพผิวจึงสำคัญมากกว่า ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมสำหรับรอยบนที่ผิวหนังผ่านการรักษาของแพทย์เฉพาะทางผิวหนังค่ะ 


Comments

Popular posts from this blog

อยากให้ผิวกระจ่างใสขึ้น😥 หลุดออกจากปัญหาผิวที่หมองคล้ำ

สวัสดีค่ะ คลินิกผิวหนังโอราเคิล ชองดัมค่ะ ดูเหมือนว่าความสนใจต่อที่ผิวใสและผิวสะอาดจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2023 คีย์เวิร์ดต่างๆ เช่น #โอลด์มันนี่ลุค #ความหรูหราเงียบ #ความงามแบบควีเอท กำลังเป็นที่นิยม  ภาพลักษณ์ที่กระจ่างใสและเป็นธรรมชาติยังคงเป็นที่ชื่นชอบ ​ ความนิยมของ  Quiet Luxury  ยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อสไตล์การแต่งหน้า ชอบสไตล์ที่เป็นธรรมชาติและเงางาม มากกว่าแต่งหน้าแบบหรูหรา นี่คือ #QuietBeauty #ส่วนประกอบสำคัญของCleanBeauty! ผิวที่สะอาดและสุขภาพดี เพราะยิ่งแต่งหน้าแบบธรรมชาติมากเท่าไหร่ สภาพผิวก็ยิ่งสำคัญค่ะ ดังนั้นวันนี้จะแนะนำการดูแลผิวโดยแผนกผิวหนังของออราเคิลสำหรับผิวที่สะอาด collaboration ระหว่าง พิโคโทนนิ่ง & ทรีทเมนท์ดูแลผิวขาว ✨ ​ พิโคโทนนิ่ง Picolite Toning Laser รุ่นที่ 5 เป็นเลเซอร์ระดับพรีเมี่ยมที่อัพเกรดกว่าเลเซอร์ Toning แบบทั่วไป เลเซอร์ picosecond laser จะไปถึงชั้นผิวหนังลึกโดยไม่ทำให้ผิวเสียหาย จึงทำให้เกิดการฟื้นฟูผิว มีประสิทธิภาพในการรักษาความผิดปกติของเม็ดสีและฟื้นฟูผิวด้วยขั้นตอนวิธีน้อยกว่าเลเซอร์โทนนิ่งแบบดั้งเดิม เป็นการรักษาที

ผิวหย่อยคล้อยที่เริ่มเห็นเด่นชัด

  ยิ่งอากาศแห้งความยืดหยุ่นของผิวก็ยิ่งลดลง ถ้าอากาศเย็นและแห้งยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปก็จะส่งผลกระทบต่อผิว โดยเฉพาะส่วนที่เห็นเด่นชัดคือผิวที่แห้งและยืดหยุ่นที่ลดลง ในช่วงเปลี่ยนฤดูที่จะเข้าสู่ฤดูหนาว ผิวจะแห้งเป็นสองเท่าเนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรวมถึงลมหนาวด้วย นอกจากนี้ เมื่อความชุ่มชื้นของผิวลดลง ริ้วรอยเล็ก ๆ ก็เพิ่มขึ้นและความยืดหยุ่นของผิวก็ลดลง ปัญหาผิวหย่อนคล้อยนี้ ควรดูแลแบบไหนดีนะ? เลเซอร์เพิ่มยืดหยุ่น ถ้ามาคลินิกผิวหนังได้เป็นประจำก็ ซีเคร็ท เลเซอร์! ถ้าผิวหย่อนคล้อยและความยืดหยุ่นลดลง หัตถการที่มีคนทำมากที่สุดก็คือเลเซอร์เพิ่มความยืดหยุ่นค่ะ ถ้าสามารถไปคลินนิกผิวหนังได้อย่างสม่ำเสมอ ขอแนะนำ Secret Laser ค่ะ  ซีเคร็ท เลเซอร์ ส่งพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูงชั่วขณะผ่านไมโครนีเดิลไปยังผิวหนัง ช่วยฟื้นฟูผิวและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว นอกจากนี้ยังเป็นเลเซอร์ที่ช่วยปรับปรุงรูขุมขน รอยแผลเป็น และริ้วรอย หาทำเป็นประจำทุกเดือนจะช่วยรักษาสภาพผิวที่ดีขึ้นค่ะ  ตารางงานยุ่งเกินไป ถ้าอยากดูแลความยืดหยุ่นของผิวในครั้งเดียว การยกกระชับ1010! มีคนที่ตารางงานยุ่งมากจนยากที่จะไปหาแพทย์ผิวหนังบ่อ

ฤดูใบไม้ร่วงที่ไม่ว่าจะดูแลความชุ่มชื้นผิวแค่ไหนก็ยังแห้ง

  สวัสดีค่ะ คลินิกผิวหนังโอราเคิล ชองดัมค่ะ ช่วงนี้เวลาออกไปข้างนอกจะรู้สึกได้ถึงอากาศแห้งของฤดูใบไม้ร่วงค่ะ ช่วงนี้อากาศในฤดูใบไม้ร่วงที่ค่อยๆเย็นขึ้นหลังจากฤดูร้อนที่ร้อนเป็นพิเศษผ่านไป อย่างไรก็ตามในฤดูใบไม้ร่วงมีสิ่งที่ต้องใส่ใจค่ะ, "ลมฤดูใบไม้ร่วงที่มีอากาศแห้ง" ที่ทำให้ผิวอ่อนไหวเป็นพิเศษค่ะ ดังนั้นวันนี้ทางคลินิกผิวหนังโอราเคิล ชองดัม เราจะมาบอกวิธีดูแลผิวพรรณ ให้ชุ่มชื้นและเต่งตึงอยู่เสมอในฤดูใบไม้ร่วงค่ะ ​ การดูแลผิวที่คลินิกผิวหนังแนะนำมากที่สุดคือ LDM ค่ะ การดูแลความชุ่มชื้น LDM ไม่เพียงแต่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวโดยใช้คลื่นอัลตราซาวนด์เท่านั้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งและอ่อนไหวอีกด้วย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกำแพงผิวให้แข็งแรงขึ้น เป็นการดูแลผิวที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและมีความพึงพอใจสูงหลังการรักษาค่ะ การทำทรีทเมนท์ LDM มีหลากหลายประเภท ที่โอราเคิลชองดัม มีการทำทรีทเมนต์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วย LDM เทนโซโนค่ะ  เทนโซโน (10SONO) คืออะไร?  เทนโซโนใช้หลักการส่งเสริมการทำงานของเซลล์โดยใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ 1 Mhz, 3 Mhz, และ 10 Mhz สำหรับผู้ที่กังวลเกี่ย